ภาษีเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จัก แต่น้อยคนที่จะเตรียมแผนรับมือภาษีได้ครอบคลุมทุกด้าน ยิ่งกับบางคนที่มีรายได้หลายทาง หรือได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจากสินทรัพย์หลายชนิด แม้แต่การฝากเงินที่เป็นเงินฝากดอกเบี้ยสูงก็ยังมีโอกาสเสียภาษี หากไม่หมั่นตรวจสอบพอร์ตการลงทุนและสินทรัพย์ต่าง ๆ ของตนเอง จนทำให้อาจลืมคำนึงถึงการวางแผนภาษีไปบ้าง แม้แต่การเลือกพักเงินไว้เฉย ๆ ในบัญชีเงินฝาก ในช่วงที่สินทรัพย์มีความผันผวนสูงก็ตาม ที่ควรทำความเข้าใจว่า เงินฝากที่พักไว้อยู่นั้น มีโอกาสเสียภาษีหรือไม่
ผลตอบแทนจากเงินฝากดอกเบี้ยสูง ต้องเสียภาษีหรือไม่
การฝากเงินมีข้อกำหนดในการเสียภาษีจากผลตอบแทน ก็คือหักจากดอกเบี้ยที่เราจะได้รับนั่นเอง เพราะดอกเบี้ยที่ได้รับก็ถือเป็นรายได้อย่างหนึ่งของบุคคลธรรมดา เมื่อได้รับดอกเบี้ยจากเงินฝากภายใน 1 ปีมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ซึ่งผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากนั้นคิดรวมทุกบัญชีที่ได้รับดอกเบี้ยเป็นรายปี ไม่ได้พิจารณาเป็นรายบัญชีไป เช่น เงินฝากดอกเบี้ยสูงบัญชีหนึ่งได้รับดอกเบี้ย 10,100 บาท อีกบัญชีหนึ่งได้รับดอกเบี้ย 10,000 บาท ยอดรวมเท่ากับ 20,100 บาท ก็ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ทั้งนี้ แต่ละธนาคารและแต่ละบัญชีอาจมีรายละเอียดตามเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ส่งผลต่อวิธีแจ้งยื่นภาษี หรืออัตราการเสียภาษีที่ต่างกันไปด้วย นอกจากนี้ยังมีหลักเกณฑ์ที่เจ้าของบัญชีห้ามลืมก็คือ
- ดอกเบี้ยเงินฝากที่ไม่เกิน 20,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี โดยต้องนำไปคำนวณรวมกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม
- เจ้าของบัญชีต้องเป็นผู้เสียภาษีจากบัญชีเงินฝากนั้น ๆ โดยต้องมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรตรงกันกับที่ใช้เปิดบัญชีเงินฝาก จึงจะมีสิทธิได้รับการยกเว้นเสียภาษี
- ดอกเบี้ยเงินฝากที่เกิน 20,000 บาท หากผู้มีรายได้มีฐานภาษีตั้งแต่ 15% ขึ้นไปอยู่แล้ว การปล่อยให้หักภาษีไปตามกลไกการเก็บภาษี จะคุ้มค่ามากกว่าการยื่นขอคืนภาษี
เงินฝากดอกเบี้ยสูง มีวิธีประหยัดภาษีหรือไม่
จากหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสียภาษีเมื่อมีเงินฝากดอกเบี้ยสูงดังกล่าว สามารถสรุปวิธีประหยัดภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝากได้ 2 วิธี คือ
1. เลือกฝากเงินในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงประเภทฝากประจำแบบปลอดภาษี
2. ยื่นขอคืนภาษีได้ หากฐานภาษีไม่ถึง 15% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนทางการเงินของแต่ละบุคคล เพราะสำหรับบางคน การประหยัดภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝาก อาจไม่สำคัญเท่ากับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าการฝากเงิน แต่ช่วยประหยัดภาษีได้ เช่น การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือการซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงินหรือการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใดก็ตาม เงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษีอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของการฝากและประเภทการลงทุน จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหากต้องการเน้นสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเป็นหลัก
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อธุรกรรมทางการเงิน อย่างเช่น เมื่อผู้ฝากเงินอยู่ในวัยเกษียณ หรือก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ เกณฑ์การเสียภาษีจากเงินฝากก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้สูงอายุหรือวัยเกษียณที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมอีก 190,000 บาท และสำหรับภาษีเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป หากมีดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันไม่เกิน 30,000 บาท และมีระยะเวลาการฝากไม่ต่ำกว่า 1 ปีขึ้นไป จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากนี้ หากมีผู้สูงอายุในบ้านที่มีบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ลองสอบถามและช่วยท่านตรวจสอบการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝากนี้ได้เลย
บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเป็นแหล่งพักเงินที่ดีมาก หากพิจารณาจากความเสี่ยงเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ความเสี่ยงอย่างเดียวที่บัญชีเงินฝากมีคือ การไม่ได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่คาดหวังไว้ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ นั่นเอง และการเสียภาษีก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นไม่ควรลืมนำปัจจัยด้านภาษีมาพิจารณาร่วมกับการคำนวณผลตอบแทนที่จะได้รับ เพื่อให้การวางแผนทางการเงินเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้มากที่สุด